The Climb (2019) เพื่อนซี้มีไว้ถีบ หนังอเมริกันตลกร้าย แบบฉบับเพื่อนเราเผาเรือน
เราเองต้องขอยอมรับว่าก่อนที่จะเข้าไปดูภาพยนต์เรื่องนี้นั้น มีข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องนี้น้อยมากๆ เข้าใจไปเองด้วยซ้ำว่าน่าจะเป็นภาพยนต์แนวตลกดาร์กๆ ของประเทศฝรั่งเศสหรือประเทศอิตาลี เป็นภาพยนต์ที่น่าออกจะเดินสายเวทีรางวัลไปทั่ว แต่ปรากฏว่าเดาผิดไปหมด เพราะภาพยนต์เรื่อง The Climb (2019) หรือชื่อไทยว่า เพื่อนซี้มีไว้ถีบ เป็นภาพยนต์ของอเมริกัน แนวตลกร้าย ที่ถูกพัฒนาสร้างจากหนังสั้นกลายมาเป็นหนังเรื่องยาว และออกมาเป็นความลงตัวในทุกจังหวะอย่างน่าประหลาด
ภาพยนต์เรื่อง The Climb เป็นเรื่องราวของเพื่อนรัก ไคล์ (รับบทโดย Kyle Marvin) กับ ไมค์ (รับบทโดย Michael Angelo Covino) ที่เป็นคู่ไม้เบื่อไม้เบากันมาตั้งแต่สมัยเรียน เคยทะเลาะกันถึงขั้นเลิกคบหากันไปก็หลายต่อหลายครั้ง แต่มิตรภาพก็ยังชักพาให้พวกเขากลับมาปรับความเข้าใจเหมือนเดิม และบททดสอบล่าสุดของพวกเขาก็ได้เกิดขึ้น เมื่อ ไมค์ ได้สารภาพตรงๆ กับ ไคล์ ว่าเขาหลับนอนกับคู่หมั้นของเขา ที่กำลังจะแต่งงานกันอีกไม่กี่วัน ทำให้ครั้งนี้ความสัมพันธ์ของเขามาถึงจุดเปลี่ยน
เรียกได้ว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นเหมือนกิจการในครัวเรือน เพราะว่า “Michael Angelo Covino ” กับ “Kyle Marvin” รับหน้าที่แทบจะทุกอย่างในภาพยนต์เรื่องนี้ นับตั้งแต่สมัยที่พวกเขาร่วมสร้างออกมาเป็นหนังสั้นด้วยกัน พวกเขาได้พัฒนาบทร่วมกันออกมาเป็นฉบับหนังเรื่องยาว และสร้างสรรค์บทออกมาได้ตลกร้ายและขำขันได้อย่างถูกจังหวะ โดยที่ Michael รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ พ่วงกับการแสดงนำด้วย เช่นเดียวกับ ไคล์ มาร์วิน ก็มารับหน้าที่แสดงนำเหมือนกัน
จากภาพยนต์สั้นๆ ที่มีความยาวเพียงแค่ 8 นาที ถูกขยายเพิ่มออกมาอีกเกือบ 90 นาที กลายเป็นภาพยนต์แนวตลก ดราม่าที่แอบขำตัวโยกอยู่หลายฉาก เพราะว่าความแข็งแรงในการพัฒนาสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้ง 2 คนในภาพยนต์เรื่องนี้ ตั้งแต่เปิดฉากไปจนถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง ต้องยอมรับว่าบทของภาพยนต์เรื่องนี้มีจังหวะจะโคนที่ดี เป็นภาพยนต์แนวตลกที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งมุกตลกใดๆ ก็สามารถให้ความบันเทิงได้
ความเป็นธรรมชาติของนักแสดงก็ค่อนข้างที่จะเป็นเสน่ห์ของภาพยนต์เรื่องนี้ได้อย่างเด่นชัด ด้วยความที่ ไมค์ กับ ไคล์ ต่างก็คลุกคลีกับภาพยนต์เรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขายังมีส่วนร่วมในการทำหนังเรื่องนี้แทบทุกส่วน ทำให้การถ่ายทอดออกแสดงออกมาของพวกเขาเป็นธรรมชาติและเข้าถึงบทบาทอย่างดี แม้จะไม่ใช่นักแสดงอาชีพที่มีผลงานเต็มพอร์ตโฟลิโอ แต่กลับช่วยกันประคองหนังไปได้ตลอดทางด้วยดี
ประเด็นของภาพยนต์เรื่องนี้ที่เหมือนจะเบาบาง แต่ก็กลับกลายเป็นจุดเด่นและความหนักแน่นของหนัง ด้วยการเล่นกับพื้นฐานในความสัมพันธ์ของมนุษย์ทั่วไป ชีวิตของทุกคนล้วนแต่มีเพื่อน แต่ว่าเราจะเชื่อใจเพื่อนได้สักแค่ไหน เพราะเพื่อนอาจจะทำให้เราสบายใจ แต่เพื่อนก็อาจจะทำให้เราเสียใจได้ด้วยเช่นกัน และภาพยนต์ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของนิยามคำว่า “เพื่อนเราเผาเรือน ฉบับปี 2020”
ถึงแม้ว่าภาพยนต์เรื่อง The Climb ( เพื่อนซี้มีไว้ถีบ) มักจะมีกลิ่นอายความเป็นภาพยนต์นอกกระแสเฉพาะกลุ่มอยู่ แต่ภาพยนต์เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ภาพยนต์ที่ดูยาก ภาพยนต์เรื่องนี้สามารถย่อยได้แบบง่ายๆ และรับรู้ถึงประเด็นได้ออย่างชัดเจน รวมทั้งยังสามารถอินไปกับบทสนทนาของหนังได้อย่างลึกซึ้ง และคาดเดาอะไรไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ว่าตัวละครต่างๆ จะเลือกเดินใช้ชีวิตไปในทิศทางใดต่อ หลังจากเกิดสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นแล้ว
โดยภาพรวมแล้วภาพยนต์เรื่อง The Climb (2019) นับว่าเป็นภาพยนต์ที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าคนดูได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่คาดคิดว่าจะเป็นหนังตลกร้ายและยังให้แง่คิดในการใช้ชีวิตตามแบบฉบับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป หนังยังขยี้ให้เห็นถึงกิเลสของคน รัก โลภ โกรธ หลง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และนี่จึงเป็นหนังที่ไม่แปลกที่จะถูกจำกัดความเอาไว้ว่าเป็นสุขนาฏกรรมของโศกนาฏกรรมแห่งชีวิตของคนคู่นี้ และถ้าหากคุณสนใจบทความพนันอื่นๆก็สามารถคลิกเข้ามาได้ที่ เซ็กซี่ บาคาร่า